ดูดไขมันแขน ดูดไขมันต้องลานนาวดีคลินิก ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการกินอย่างมาก ของอร่อยก็เยอะมากเช่นกัน แต่เมื่อเรากินเยอะขึ้น ก็จะอ้วนขึ้นแบบไม่รู้ตัว แถมยิ่งอายุเพิ่มขึ้น การเผาผลาญก็ยิ่งแย่ลงไปอีก ก็ทำให้เรามีปัญหาส่วนเกิน และความอ้วนเกิดขึ้นได้ง่าย แต่ไม่ต้องห่วง เพราะการดูดไขมัน สามารถช่วยแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด !
การดูดไขมันต้นแขนจะช่วยกำจัดส่วนเกิน ที่สะสมอยู่ที่ใต้ชั้นผิวหนังออกมา และทำให้ต้นแขนเล็กลง ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยการอาศัยเครื่องดูดไขมัน (เครื่องBody Tite) เข้าช่วยในการสลายไขมัน ซึ่งเราสามารถดูดไขมันยาชาก็ได้ หรือจะดูดไขมันวางยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำตามความเหมาะสมของแต่ละเคสค่ะ
ดูดไขมันแขน ราคาเริ่มต้น 39,000 จากปกติ 59,000 บาท
1. การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก
หลายคนเข้าใจผิดว่าการดูดไขมันคือการลดน้ำหนัก ที่จะทำให้ได้รับหุ่นผอมเพรียวในระยะเวลาที่รวดเร็ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างที่คิด การดูดไขมันจะช่วยลดสัดส่วนได้ เนื่องจากเป็นการเอาเซลล์ไขมันออกจากร่างกายในบริเวณที่ไม่สามารถลดได้จากการควบคุมอาหารตามปกติ อาจเนื่องจากพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ อีกทั้งเราไม่สามารถดูดไขมันได้ในหลายๆ บริเวณของร่างกาย
การดูดไขมัน จะทำให้กระชับสัดส่วนขึ้น น้ำหนักอาจเปลี่ยนลงบ้างเพราะไขมันจะเบากว่าที่เห็นมากและในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก อาจจะเห็นน้ำหนักขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจเพราะเนื่องจากอาการบวมอักเสบ
2. งดยา อาหารเสริมบางชนิดก่อนการดูดไขมัน 2 อาทิตย์
เตรียมตัวก่อนดูดไขมัน โดยงดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยาแก้ปวดบางชนืด ยารักษาอาการซึมเศร้า
3. งดการสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ก่อนการดูดไขมัน
การสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดใดๆ ถือว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อการหายของแผล ทำให้หายช้า แผลไม่ติด ทั้งนี้รวมถึงการใช้นิโคตินหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคตินแบบเดียวกัน
4. แจ้งแพทย์ตามตรง ถึงเรื่องโรคประจำตัว
การแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงโรคประจำตัวในอดีตหรือปัจจุบัน เป็นการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ที่สำคัญมากจริงๆ อย่ากังวลว่าหากพูดไปมากๆหมอจะไม่ทำให้ ความปลอดภัยจากการผ่าตัดสำคัญกว่ามาก
5. ควรวางแผนการเดินทางหรือทำงานหลังการดูดไขมัน
โดยปกติ การดูดไขมันในจำนวนพื้นที่ไม่มาก ถือว่าไม่อันตรายอะไร แต่ก็ควรมีการเตรียมตัวโดยหลีกเลี่ยงการขึ้นเครื่องบินนานๆ (นานกว่าหกชั่วโมง) ทันทีหรือนั่งรถนานๆ
6. ไขมันที่ดูดออกมาสามารถนำไปเติมส่วนอื่น ๆ ได้
ไขมันที่ถูกดูดออกจากร่างกายของเราในเทคนิคพิเศษ อาจจะสามารถถูกนำกลับมาฉีดเพื่อเสริมร่างกายบางส่วนของเราได้ เช่น บริเวณที่เกิดการแหว่งหรือเป็นหลุมจากสาเหตุต่างๆ หรือเติมเต็มบริเวณริมฝีปาก คาง หรือแก้ม เป็นต้น
7. การดูดไขมันต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเข้าที่
การดูดไขมันนั้นต้องใช้ระยะเวลา และนอกจากความสามารถของแพทย์ แล้วการดูแลหลังการดูดไขมัน และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1. ก่อนอื่นสอบถามประวัติคนไข้ ตรวจร่างกาย และประเมินบริเวณที่ต้องการรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรักษา รวมถึงการประเมินว่าบริเวณที่ผู้ป่วยกังวลนั้น เหมาะสมต่อการรักษาด้วยวิธีการดูดไขมันหรือไม่
2. สอบถามคนไข้ว่ามีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาอะไรบ้าง
3. ในวันผ่าตัด แพทย์จะทำการตรวจประเมินร่างกายถึงความพร้อมอีกครั้ง
4. จะมีการรับประทานยาคลายกังวล ในการระงับความเจ็บปวดนั้น วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือ การฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความกลัว และความเจ็บปวดของคนไข้ให้ลดน้อยลง
5. แพทย์จะใช้ เครื่องมือที่เป็นแท่งยาวขนาดเล็ก น้ำเกลือที่ผสมด้วย ยาชา และยาห้ามเลือด ซึ่งหลังจากการฉีด คนไข้จะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดบริเวณนี้แล้ว
6. จะเป็นขั้นตอนของการสลายไขมัน ด้วยคลื่นอัลตราซาวน์ ซึ่งคลื่นอัลตราซาวน์จะส่งพลังงาน สั่นสะเทือนผนังของ เซลล์ไขมันให้แตกออก และสลายเป็นน้ำ จะสามารถทำลายไขมัน โดยที่ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ
7. เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดนี้แล้ว แพทย์จะทำการเย็บแผล ซึ่งแผลจะมีขนาดเล็กมาก และหลังดูดไขมันเสร็จ แพทย์จะทำการทำความสะอาดบริเวณที่ผ่าตัดให้เรียบร้อย
1. ทำแผลวันละครั้ง ตามคำแนะนำ
2. ควรกลับบ้านพักผ่อน และควรเริ่มเดินทันทีเพื่อป้องกันการเกิดก้อนเลือดอุดตันที่ขา และเพื่อช่วยระบายของเสียออกจากแผล
3. งดการอาบน้ำ สามารถอาบน้ำได้ในวันถัดไป หลังจากที่ทำการติดพาสเตอร์กันน้ำ ใช้พาสเตอร์กันน้ำ แปะแผลก่อนอาบน้ำทุกครั้ง บางท่านอาจมีอาการแพ้ อาจใส่เฉพาะว่าก่อนอาบน้ำก็พอ ไม่ต้องใส่ตลอดเวลา
4. อย่าให้แผลโดนแดด เพราะอาจจะทำให้แผลมีสีดำได้
5. ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ใน 3 วันแรก และหลังจากนั้นใส่เพียงวันละ 12 ชม. เพื่อให้เลือดไหลเวียน เป็นเวลา 1 เดือน
6. ใส่ชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมัน BodyTiteเสมอ เพื่อให้ผิวกระชับได้เร็วขึ้น
7. หากมีแผลด้านใน บริเวณขา พยายามไม่ให้แผลโดนปัสสาวะ เพี่อป้องกันการติดเชื้อ
8. งดกิจกรรมหนัก เพื่อป้องกันแผลเปิดสักระยะ สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ ส่วนออกกำลังกายหนัก เริ่มทำได้หลังการดูดไขมัน 2 อาทิตย์
9. งดทานของเค็ม และแอลกอฮอล์ รวมถึงของหมักดองเพื่อไม่ให้แผลหายช้า
10. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และทางคลินิกอย่างเคร่งครัด
1. การออกกำลังกายเพื่อทำให้ร่างกายนำพลังงานออกมา และโฟกัสที่กล้ามเนื้อแขน
2. การฉีดเมโสแฟตต้นแขน การนำตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน ฉีดลงไปในชั้นไขมันบริเวณต้นแขน เพื่อทำให้ไขมันแตกตัว และถูกขับออกทางระบบขับถ่าย
3. การฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน ทำให้กล้ามเนื้อแขนทำงานได้ลดลงชั่วคราว และเกิดการคลายตัว ต้นแขนที่ใหญ่จึงมีขนาดเล็กลง และดูเรียวขึ้น
4. ควบคุมการทานอาหาร การลดไขมันที่ดีนั้นควรใส่ใจอาหารที่ทาน ควบคุมปริมาณการทานอาหารให้เหมาะสม
5. ทานโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีน้อยลงแล้ว การทานโปรตีนอย่างเพียงพอ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน โปรตีนยังทำให้อิ่มนาน ช่วยลดปริมาณการทานอาหารในแต่ละมื้อลงได้
“ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล”
“ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล”
“ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล”
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
ลานนาวดีคลินิกมี 4 สาขาใกล้บ้านท่าน
📍สาขาเชียงใหม่ แยกดอนจั่น 574 ถนน เชียงใหม่-ลำปาง ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ Tel.053-230257 /062-3103797 /062-3103798
📍สาขาเชียงใหม่ ลานนาวดีคลินิก มีโชคพลาซ่า 206/17 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
Tel.053-230258 /062-3103799 /062-3103800
📍สาขากรุงเทพ รังสิต
📍สาขาพัทยา 194/5และ194/6 หมู่9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง , Chon Buri, Thailand, Chon Buri
เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 19.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.30 – 19.30 น.