เลเซอร์ลบรอยสัก
เลเซอร์ลบรอยสัก ลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถทำลายเม็ดสีหมึกสักได้โดยไม่ทำลายผิวหนังโดยรอบมากนัก
โดยทั่วไป วิธีการลบรอยสักด้วยเลเซอร์จะแบ่งตามชนิดของเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการทำลายเม็ดสีต่างกันไป ดังนี้ MEDA
ชนิดของเลเซอร์ลบรอยสักที่นิยม
เลเซอร์ที่นิยมใช้ในการลบรอยสักหลักๆ มี 3 ชนิด ดังนี้:
1. Q-Switched Laser (เลเซอร์คิวสวิตช์)
• หลักการทำงาน: ปล่อยพลังงานแสงความถี่สูงในช่วงเวลาที่สั้นมากในระดับ นาโนวินาที (Nanosecond) พลังงานนี้จะถูกดูดซับโดยเม็ดสีหมึกสัก ทำให้เม็ดสีแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ แล้วร่างกายจะขับอนุภาคเหล่านี้ออกไปตามธรรมชาติ
• ชนิดย่อยที่พบบ่อย:
• Nd-YAG Laser: มีความยาวคลื่นหลายระดับ มักใช้ได้ดีกับรอยสักสีเข้ม เช่น สีดำและน้ำเงิน
• Ruby Laser: มักใช้ได้ดีกับรอยสักสีเข้มบางสี
• ข้อดี: เป็นเทคโนโลยีที่ใช้มานานและได้รับการยอมรับ มีประสิทธิภาพในการลบสีเข้ม
• ข้อจำกัด: อาจต้องใช้จำนวนครั้งในการรักษามากกว่า เมื่อเทียบกับ Picosecond Laser และอาจมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย
2. Picosecond Laser (Pico Laser / พิโคเลเซอร์)
• หลักการทำงาน: เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า Q-Switched Laser โดยจะปล่อยพลังงานแสงในช่วงเวลาที่สั้นยิ่งกว่า ในระดับ พิโควินาที (Picosecond) ซึ่งเร็วกว่านาโนวินาทีถึง 1,000 เท่า ทำให้เม็ดสีหมึกแตกตัวเป็นอนุภาคที่เล็กละเอียดกว่ามาก
3. Ruby Laser (เลเซอร์ทับทิม)
• หลักการทำงาน: คล้ายกับ Q-Switched Laser โดยปล่อยแสงในช่วงความยาวคลื่นที่จำเพาะ
• ข้อดี: มีประสิทธิภาพในการลบสีเข้ม โดยเฉพาะสีดำ สีน้ำเงินเข้ม และสีเขียว
• ข้อจำกัด: ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวสีเข้ม (เพราะอาจทำให้สีผิวเปลี่ยนได้) และใช้ไม่ได้ดีกับรอยสักบางสี
ปัจจัยที่มีผลต่อผลลัพธ์ของการเลเซอร์ลบรอยสัก
ประสิทธิภาพในการลบรอยสักขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้:
• สีของรอยสัก: สีดำและน้ำเงินเข้มมักจะลบง่ายที่สุด ส่วนสีอ่อน เช่น สีขาว สีเหลือง และสีพาสเทล มักจะลบยากหรืออาจต้องใช้เลเซอร์ที่จำเพาะ
• ความลึกและความหนาแน่นของหมึก: รอยสักที่หมึกอยู่ตื้นและมีความหนาแน่นน้อย จะลบง่ายกว่ารอยสักที่หมึกลึกและแน่น
• อายุของรอยสัก: รอยสักที่สักมานานแล้วมักจะลบง่ายกว่ารอยสักใหม่
• ขนาดและตำแหน่ง: รอยสักขนาดใหญ่หรืออยู่บนบริเวณที่การไหลเวียนเลือดไม่ดีอาจต้องใช้เวลานานกว่า
• ชนิดของหมึก: หมึกที่ใช้ในการสักมืออาชีพอาจลบง่ายกว่าหมึกที่ใช้ในการสักสมัครเล่น
• ปฏิกิริยาของร่างกาย: การตอบสนองของแต่ละบุคคลต่อการรักษาจะแตกต่างกันไป
ทางเลือกอื่นๆ ในการลบรอยสัก
อาจมีการใช้วิธีอื่นร่วมด้วย หรือพิจารณาทางเลือกอื่น ดังนี้:
1. การศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก (Surgical Removal)
• เหมาะสำหรับ: รอยสักขนาดเล็ก
• หลักการ: ศัลยแพทย์จะตัดผิวหนังส่วนที่มีรอยสักออกโดยตรง จากนั้นเย็บผิวหนังส่วนที่เหลือเข้าหากัน
• ข้อดี: เห็นผลทันที
• ข้อจำกัด: จะทิ้งรอยแผลเป็นตามแนวผ่าตัด ไม่เหมาะกับรอยสักขนาดใหญ่
2. การกรอผิวหนัง (Dermabrasion)
• เหมาะสำหรับ: รอยสักตื้นๆ ที่ลบยาก
• หลักการ: ใช้เครื่องมือทางการแพทย์กรอผิวหนังชั้นบนออกทีละชั้นเพื่อลบเม็ดสีหมึก
• ข้อจำกัด: มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผลเป็นและผิวเปลี่ยนสี ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมเท่าการใช้เลเซอร์
Pico Laser ช่วยรักษาในด้านใดบ้าง
– รักษาหลุมสิว: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น
– ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ: ช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสและดูอ่อนวัย
– กำจัดรอยสัก: สามารถใช้กำจัดรอยสักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
– ทำให้ผิวกระจ่างใส: กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนขึ้น
ข้อดีของการทำ Pico Laser รอยสัก
1. ความแม่นยำสูง – ทำลายเฉพาะเม็ดสีโดยไม่ทำร้ายผิวบริเวณรอบข้าง
2. ฟื้นตัวเร็ว – ไม่มีแผลเปิด ผิวไม่ลอกมาก ไม่ต้องพักฟื้น
3. เจ็บน้อยหรือแทบไม่เจ็บ – ใช้พลังงานต่ำกว่ารุ่นเก่า ความร้อนน้อย
4. โอกาสเกิดรอยดำหลังเลเซอร์ต่ำกว่า (PIH) – โดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวเข้ม
5. ทำได้ทุกสีผิว – รวมถึงคนเอเชียที่มีผิวเข้มซึ่งมักไวต่อแสง
ความถี่ในการทำและระยะเวลาการเห็นผล
• โดยทั่วไปควรทำ ทุก 2–4 สัปดาห์
• ฝ้า/กระ อาจต้องทำ 4–6 ครั้ง
• ลบรอยสักอาจใช้เวลา 6–10 ครั้ง
• ส่วนใหญ่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
• ผลลัพธ์ที่ได้จะดีขึ้นต่อเนื่องเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ
ขั้นตอนโดยทั่วไปของการลบรอยสักด้วยเลเซอร์
1. การปรึกษาแพทย์: แพทย์จะประเมินรอยสัก (สี, ขนาด, ความลึก) และวางแผนการรักษา รวมถึงเลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสม
2. การเตรียมผิว: ทำความสะอาดผิวและทายาชาชนิดครีมหรืออาจมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ (ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์)
3. การยิงเลเซอร์: แพทย์จะยิงพลังงานเลเซอร์ลงบนรอยสัก อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเหมือนโดนหนังสติ๊กดีด
4. การดูแลหลังทำ: ทายาปฏิชีวนะหรือยาตามที่แพทย์สั่ง อาจมีรอยแดง บวม หรือเกิดสะเก็ดเล็กน้อย ซึ่งจะหลุดลอกไปเอง ควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำและแสงแดด
5. การนัดติดตามผล: การลบรอยสักต้องทำหลายครั้ง โดยทั่วไปมักทำประมาณ 5-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยของรอยสัก โดยเว้นระยะห่างระหว่างครั้งประมาณ 4-8 สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป (มักหายเอง)
• อาการบวมแดงและแสบร้อน: หลังทำ 2-3 ชั่วโมง อาจรู้สึกร้อนผ่าวและผิวบริเวณที่ทำเป็นรอยแดง บวม
• การเกิดตุ่มน้ำใส (Blistering): อาจเกิดตุ่มน้ำใสหรือตุ่มพองเล็กน้อย ห้ามเจาะหรือแกะ ให้ทายาและปล่อยให้หายไปเอง
• การตกสะเก็ด (Scabbing): ผิวจะแห้งและตกสะเก็ด ซึ่งจะหลุดลอกหมดไปในประมาณ 5-7 วัน ห้ามแกะหรือเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
• อาการคัน: เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการฟื้นตัวของผิวหนัง
REVIEW!!
ทีมแพทย์ของเรา
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
- Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
- Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
- MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
- Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
- Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
- Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
- Diplomate American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
- International Board of Hair Restoration Surgery/ IBHRS
- Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery
- Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
- Member of International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS)
- Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
- Master degree in Dermatology (MSc)
