5 เทรนด์ศัลยกรรมความงาม ปี 2024 มาแรง! เน้นความเป็นธรรมชาติ
ปี 2024 เทรนด์ศัลยกรรมความงามจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมความงามแบบเป็นธรรมชาติ คงความเป็นตัวเอง ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย และความปลอดภัย โดยคำนึงถึงสุขภาพโดยรวม 5 เทรนด์ศัลยกรรมความงาม
5 เทรนด์ศัลยกรรมความงามปี 2024 ลานนาวดีคลินิก
1. ยกกระชับ ปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด
มีหลายวิธีในการยกกระชับและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ตัวเลือกยอดนิยมบางส่วน ได้แก่
- Ultherapy เป็นการรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งสามารถช่วยยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าได้ Ultherapy ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการยกคิ้ว คอ และใต้คาง
- Thermage เป็นการรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน Thermage ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ
- Fraxel เป็นการรักษาด้วยเลเซอร์แบบ fractional ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น และรอยตีนกา Fraxel ยังสามารถช่วยกระชับผิวและปรับรูปหน้าได้
- Venus Freeze เป็นการรักษาด้วยคลื่นวิทยุแบบ multipolar ที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน Venus Freeze ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการลดเลือนริ้วรอยและกระชับผิว
- Infini เป็นการรักษาด้วยคลื่นวิทยุแบบ microneedling ที่ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน Infini ได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับการลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น และรอยตีนกา
- แบบฉีด Botox และ Filler
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกรักษา
- ประเภทของผิว ผิวของคุณเป็นประเภทใด? แห้ง มัน หรือผสม? ผิวของคุณไวต่อแสงหรือไม่?
- ปัญหาผิว ปัญหาผิวของคุณคืออะไร? ริ้วรอย? รอยแผลเป็น? รอยตีนกา? ผิวหย่อนคล้อย?
- เป้าหมายของคุณ เป้าหมายของคุณคืออะไร? คุณต้องการยกกระชับผิว? ปรับรูปหน้า? ลดเลือนริ้วรอย?
- เวลาพักฟื้น คุณมีเวลาพักฟื้นมากแค่ไหน? การรักษาบางอย่างอาจทำให้เกิดรอยแดงหรือบวมช้ำชั่วคราว
2. ศัลยกรรมตา เน้นความกลมโต ธรรมชาติ
- ปรับชั้นตาให้ชัดเจน
- เปิดหัวตา
- ตัดหนังตาตก
- ศัลยกรรมตากลมโต
- ดูเป็นธรรมชาติ
เทคนิคที่นิยม ก็คือ
- การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น: เหมาะสำหรับคนที่มีหนังตาบาง ต้องการชั้นตาที่ชัดเจน
- การเปิดหัวตา: ช่วยให้ดวงตาดูกลมโต เรียว ยาวขึ้น
- การตัดหนังตาตก: แก้ปัญหาหนังตาตก ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น
- การศัลยกรรมตากลมโต: เทคนิคเฉพาะทาง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
3. ศัลยกรรมจมูก ปรับโครงสร้าง เน้นปลายจมูกโด่ง ปลายหยดน้ำ
- ปรับโครงสร้างจมูก
- เสริมสันจมูก
- ปรับปลายจมูกให้โด่ง
- ปลายหยดน้ำ
- ดูเป็นธรรมชาติ
ศัลยกรรมจมูก เหมาะกับใครในแต่ละทรง
- การเสริมซิลิโคน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย ต้องการเสริมสันจมูกให้โด่ง
- การผ่าตัดแบบโอเพ่น: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก
- การผ่าตัดแบบปิด: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปลายจมูก
- ปลายหยดน้ำ: เหมาะกับคนที่มีจมูกทรงชมพู่แต่เดิม และ จะมีลักษณะจมูกที่ใหญ่
4. เสริมหน้าอก เน้นความอวบอิ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
- เสริมซิลิโคน
- ปรับขนาด เลือกทรง
- เน้นความอวบอิ่ม
- ดูเป็นธรรมชาติ
- เหมาะสมกับสรีระ
การเลือกเ สริมหน้าอก ให้เหมาะสมกับเเต่ละเทคนิค
- การเสริมซิลิโคนใต้ต่อมเนื้อ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย
- การเสริมซิลิโคนบนกล้ามเนื้อ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกมาก
- การใช้ซิลิโคนแบบหยดน้ำ: เหมาะสำหรับผู้ต้องการหน้าอกอวบอิ่ม
- การใช้ซิลิโคนแบบกลม: เหมาะสำหรับผู้ต้องการหน้าอกทรงกลม
5. ดูดไขมัน เน้นกระชับสัดส่วน
การดูดไขมันเป็นวิธีการลดสัดส่วนที่ได้ผลลัพธ์รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด ดื้อต่อการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่การดูดไขมันไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก
- เทคโนโลยี Vaser Hi-Def
- ดูดไขมันเฉพาะส่วน
- กระชับสัดส่วน
- หน้าท้อง เรียวขา
- สะโพก
- ต้นแขน
เทคนิคดูดไขมัน เน้นกระชับสัดส่วน
- การดูดไขมันแบบ Vaser Hi-Def : เทคนิคการดูดไขมันแบบ 3 มิติ เน้นการสลายไขมันอย่างละเอียดช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับ เหมาะสำหรับการดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก
- การดูดไขมันแบบ BodyTite : เทคนิคการดูดไขมันโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ ช่วยให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการดูดไขมันบริเวณที่มีไขมันหย่อนคล้อย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
- การดูดไขมันแบบ Ultra Lift : เทคนิคการดูดไขมันโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับ เหมาะสำหรับการดูดไขมันบริเวณที่มีไขมันสะสมหนา เช่น หน้าท้อง สะโพก
การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน
- สวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนตามคำแนะนำของแพทย์
- หลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การดูแลหลังเสริมคางแผลนอก
- หลังผ่าตัด สามารถกลับบ้านได้ สามารถไปไหนมาไหนใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- นับวันที่ผ่าตัดเป็น0 แล้ว 0-3 วันแรกหลังการผ่าตัดเสริมคางแผลนอก ประคบเย็น ช่วยลดอาการบวมช้ำ หลังจากนั้นวันที่ 4 เป็นต้นไป สามารถเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นได้ทันที และหยุดประคบเมื่ออาการบวมหายไป
- ไม่ควรกด ทับ โดนบริเวณที่ผ่าตัดเสริมคางนอก
- ห้ามแผลโดนน้ำ จนกว่าจะตัดไหม และแผลแห้งสนิท
- ลดการเอาลิ้นดุนบริเวณคาง
- ลดการเช็ดแผลด้วยยาทาอื่นๆ นอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทก / เลี่ยงการออกกำลังกาย การทำให้ร่างกาย ได้รับการกระทบกระเทือน อย่างน้อย 1-2 เดือนหลังผ่าตัด
- ควรรับประทานยา / อาหารตามที่แพทย์สั่ง แนะนำ ให้ครบทุกวัน
- นอนศีรษะสูง / หมอนสูง เพื่อลดการอาการบวมช้ำของแผลผ่าตัด เสริมคางด้าน นอก อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง นอนคว่ำ ช่วง 1 เดือนแรก เนื่องจากอาจส่งผลต่อรูปทรงคางได้
- หลีกเลี่ยง อาหารแสลงที่อาจทำให้แผลอักเสบ อาทิ อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ , บุหรี่, เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์, อาหารทะเล ของหมักดอง อย่างน้อย 1เดือน
- ไม่ควรแคะ แกะ เกาหรือสัมผัสบริเวณแผลบ่อยครั้ง
- นอกเหนือจากนี้ หากหลังผ่าตัดเสริมคางแผลนอก มีอาการปวด บวม แผลมีเลือด ออก ฯลฯ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลแผลหลังผ่าตัดเสริมคางแผลนอก ควร รับคำปรึกษาจากแพทย์เจ้าของไข้ทันที
5 เทรนด์ศัลยกรรมความงาม 5 เทรนด์ศัลยกรรมความงาม 5 เทรนด์ศัลยกรรมความงาม
การเตรียมตัวก่อนเสริมคางภายใน
- ปรึกษาออกแบบรูปทรงใบหน้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้เตรียมตัวอย่างรูปทรงคาง สำหรับการเสริมคาง
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องใช้เป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด
- ก่อนผ่าตัด ควรงดรับประทานยาที่ต้านเกล็ดเลือด และยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการเลือดออกง่ายในระหว่างผ่าตัด
- สมุนไพร วิตามิน และอาหารเสริมที่อาจทำให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ เช่น วิตามินอี วิตามินเอ น้ำมันตับปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ก่อนผ่าตัดจึงควรหยุดรับประทานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมปริมาณเลือดที่จะออกระหว่างการผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ควรจะควบคุมอาการของโรคนั้นให้อยู่ในระดับปกติ ก่อนรับการผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ยาที่รับประทาน หรือยาชา ก่อนเสมอ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 เดือนเพื่อป้องกันปัญหาที่ทำให้แผลหายช้า และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- เตรียมวันให้ว่าง พร้อมหยุดพักหลังผ่าตัดประมาณ 7 วัน
- เตรียมจิตใจให้พร้อมต่อการผ่าตัด ลดความตื่นเต้นให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
- ทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัดให้สะอาดเรียบร้อย
- ในวันรับการผ่าตัด ให้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สบาย มีกระดุมหน้า และหลวมให้สามารถถอดใส่ง่าย และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้าในวันนั้น
- งดใส่คอนแทคเลนส์ รีเทนเนอร์ ฟันปลอม และเครื่องประดับทุกชนิด
- ทานอาหารก่อนเข้าผ่าตัดแค่พออิ่ม เพื่อป้องกันปัญหาท้องแน่นหรืออึดอัดระหว่างการผ่าตัด
- งดใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อที่จะตามมาหากล้างเครื่องสำอางไม่หมด
เกี่ยวกับเรา
ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผ่านการอบรมและมีใบรับรองจากหลายสถาบัน
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
- Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
- Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
- MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
- Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
- Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
- Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
- American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
- Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery/ISHRS
- Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
- Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
- Member of International Society of Hair Restoration Surgery
